UltraClear คือเครื่องเลเซอร์ไฟเบอร์เย็นตัวแรกของโลก ที่ใช้ MID IR Fiber (ความยาวคลื่น 2910 นาโนเมตร) เพื่อฟื้นฟูผิวหน้าและลดริ้วรอยจากวัย โดยสามารถดูดซับพลังงานได้สูงสุดและทำงานกับเนื้อเยื่อผิวหนังโดยทิ้งความร้อนไว้ที่ผิวน้อยมาก ช่วยลดความเสี่ยงของ PIH และ PIE
เออร์เบียมแบบไม่มีหลอดไฟ ทำให้มีความเสถียรสูงและไม่ต้องปรับเทียบพลังงานบ่อย สามารถรักษาผิวได้ทุกประเภทและได้รับการรับรองจาก FDA จากประเทศสหรัฐอเมริกาและ อย. ประเทศไทย นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิว ทำให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์
UltraClear เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่เป็นหลักการใหม่ แทนการผ่าตัด หรือเสริมการผ่าตัด หนึ่งเดียวในโลก คือ Laser coring คือ การเอาผิวหนังออกจุดเล็กๆ ทั้งชั้นผิวหนัง โดยแผลขนาดเล็กมาก ต้องสังเกตถึงจะเห็นจุด คนไข้ไม่ต้องดมยา ไม่ต้องพักฟื้น ใช้เพียงแค่ทายาชา ใช้เวลารักษา 10-15นาที
* fiber laser โดย laser กำเนิดในสาย fiber ทำให้ยิงได้เร็วถึง 5,000 Hz ที่ทำให้สามารถ ทำ coring ได้
* wavelength ใหม่ 2910 นาโนเมตร ที่มีประสิทธิภาพกำจัดผิวหนังส่วนเกินได้ดี และความร้อนหลงเหลือในผิวน้อย (5 % thermage residue) ส่งผลให้ปลอดภัยต่อทุกสีผิว และการฟื้นฟูผิวได้อย่างรวดเร็ว
* คุณภาพลำแสงที่เหนือกว่าจุดเลเซอรขนาดเล็ก (170 (m) เพิ่มความสบายผิวทำให้ผิวฟื้นตัวเร็วยิ่งขึ้น
ความเร็วพิเศษ 5,000 เฮิร์ต คนไข้ไม่เจ็บ (โหมดหน้าใส ไม่ต้องทายาชา )และใช้เวลารักษารวดเร็วมาก (เวลาการรักษาสั้นมาก 10-15นาที)
* เครื่องทำงาน ได้ 6 mode ขึ้นกับปัญหาที่ต้องการ รักษา
* US FDA clear ; รักษา scars, wrinkle , pigment, telangiectasia ,
* coring & ultra กระขับผิว ทั้ง หน้า ลำคอ , เปลือกตา /ใต้ตา
* เสริมการรักษา หลังศัลยกรรมต่างๆ ที่ต้อง การ เอาหนังส่วนเกินออก เพิ่มเติม หรือ กระขับผิว สามารถทำ ร่วมกับ ผ่าตัด หรือ หลังผ่าตัด
* 3D miracl mode ทำหน้าใส ฟื้นฟูผิว ไม่เจ็บ ไม่ต้องแปะ ยาชา
* สามารถใช้ รักษา ผิวหนัง เหี่ยวย่น ทั่วร่างกาย ทั้ง หน้าท้อง , แขน มือ ได้ดี
* สามารถทำได้ในทุกสีผิว
* สามารถทำได้ทุกวัย
* ใช้ระยะเวลาในการทำแต่ละครั้งไม่นาน
* ใช้เวลาพักฟื้นน้อย
* เครื่องเดียวใช้แก้ปัญหาได้อย่างหลากหลาย
รายละเอียดของโหมดต่างๆ ใน UltraClear:
UltraClear Mode:
ผสมผสาน Clear+ Mode และ Ultra Mode เพื่อผลลัพธ์สูงสุด
ให้ผิวที่เรียบเนียน กระชับ กระจ่างใส และอ่อนเยาว์ขึ้น
Laser-Coring Mode:
โหมดขั้นสูงสำหรับการรักษาริ้วรอยร่องลึกและรอยแผลเป็นลึก
ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
Surgical Mode:
เป็นโหมดการศัลยกรรมโดยใช้หุ่นยนต์ เช่น การผ่าตัดตกแต่งเปลือกตา
ให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
แต่ละโหมดมีความเฉพาะตัวในการรักษา และสามารถเลือกใช้งานตามความต้องการของผู้เข้ารับบริการเพื่อแก้ปัญหาผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีของผิวหน้าในการทำ UltraClear มีดังนี้:
UltraClear ลดอายุใบหน้า: เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกหลังการทำ
UltraClear ลดริ้วรอยและจุดด่างดำ: ช่วยลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
UltraClear ยกกระชับใบหน้าและผิวหน้า: ช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับขึ้น
UltraClear รักษารอยแผลเป็น: ช่วยฟื้นฟูรอยแผลเป็นให้ดีขึ้น
UltraClear ปรับสีผิว: แก้ไขความหมองคล้ำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
UltraClear ปรับปรุงผิวหยาบกร้าน: ช่วยทำให้ผิวหยาบกร้านกลับมานุ่มนวลขึ้น
UltraClear กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว: ส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิวที่หมดอายุ
UltraClear สร้างเซลล์ใหม่: กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ตามธรรมชาติ
UltraClear ฟื้นฟูผิวเรียบเนียนและเปล่งปลั่ง: ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์
UltraClear ผิวภาพรวมอ่อนเยาว์ขึ้น: ช่วยให้ผิวดูสดใสและอ่อนเยาว์กว่าเดิม
UltraClear รักษาร่วมกับเครื่องอื่นได้: ปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดอันตรายเมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่น
UltraClear เหมาะกับทุกสีผิว: สามารถทำได้กับทุกโทนสีผิว
UltraClear ระยะเวลาในการทำไม่นาน: การรักษาแต่ละครั้งใช้เวลาไม่นาน
UltraClear เวลาพักฟื้นน้อย: สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างรวดเร็ว
UltraClear เครื่องเดียวแก้ปัญหาหลากหลาย: ใช้เพียงเครื่องเดียวในการแก้ไขปัญหาผิวหลายประเภท
ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าและลำคอ
ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวในส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยและร่องลึก
ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยด่างดำ
ผู้ที่ต้องการรักษารอยแผลเป็น
ผู้ที่ต้องการรักษารอยแผลเป็นจากสิว
ผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้น
สตรีมีครรภ์
สตรีที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร
หากมีโรคประจำตัวหรือมีการฝังอุปกรณ์โลหะในร่างกาย ควรแจ้งแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและความปลอดภัยในการรักษา
การเลือกใช้โหมดของ UltraClear Laser ไม่ได้มีแค่ตามชนิดของปัญหาผิวเท่านั้น แต่ยังสามารถปรับให้เหมาะกับ ช่วงอายุ ของแต่ละบุคคลได้อีกด้วย เพราะสภาพผิวและความต้องการของผิวในแต่ละวัยย่อมแตกต่างกัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ประเมินและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละท่าน
กลุ่มวัย 30 ปลาย ๆ ถึงวัย 65+
ในช่วงอายุตั้งแต่ประมาณ 35 ปีขึ้นไป จนถึงผู้สูงอายุ UltraClear Laser โหมด Coring มักถูกเลือกใช้เป็นหลัก เพราะสามารถช่วยในเรื่องการตัดผิวบางส่วนเพื่อให้เกิดการยกกระชับผิวตามธรรมชาติ (skin tightening) ซึ่งให้ผลคล้ายการ “ดึงหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด”
แต่การทำ Coring เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แพทย์จึงมักแนะนำให้ใช้ร่วมกับโหมด Ultra และ Clear เพื่อฟื้นฟูผิวในระดับลึก – ละเอียด เช่น ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เติมเต็มริ้วรอย หรือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากผิวชั้นใน
กลุ่มวัย 20 – 30 ต้น
แม้ว่าในวัยหนุ่มสาวจะยังไม่มีปัญหาริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยมากนัก แต่ก็มีโอกาสเจอปัญหาผิวเฉพาะจุด เช่นรอยสิวหรือหลุมสิวลึกแผลเป็นจากอุบัติเหตุหรือการอักเสบสีผิวไม่สม่ำเสมอจากแดดหรือการใช้สกินแคร์บางชนิดในกรณีนี้ UltraClear Laser ก็สามารถช่วยได้โดยเลือกใช้โหมด
Ultra หรือ Clear ตามลักษณะของปัญหา โดยไม่จำเป็นต้องใช้โหมด Coring
ผลลัพธ์จากการศึกษา: UltraClear ได้รับการรับรองจากงานวิจัย
จากผลการศึกษาล่าสุดในปี 2024 ที่ตีพิมพ์โดย Murray และคณะ พบว่าเลเซอร์ชนิด Fiber laser ความยาวคลื่น 2910 nm ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ใน UltraClear
มีประสิทธิภาพสูงในการฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากแสงแดด, วัยที่เพิ่มขึ้น, ริ้วรอยลึก และรอยแผลเป็น
ผลการทดลองที่น่าสนใจ:
คะแนนเฉลี่ยจากแบบประเมิน Global Aesthetic Improvement Scale (GAIS) หลังทำครบ 3 ครั้ง อยู่ที่ 3.8 ซึ่งอยู่ในระดับ “เห็นผลชัดเจนมาก”
ระยะเวลาพักฟื้นเฉลี่ยเพียง 5–7 วัน เร็วกว่าการฟื้นตัวของเลเซอร์ชนิด Ablative แบบดั้งเดิม
ผู้เข้ารับการรักษา กว่า 86.7% แสดงความพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้
หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA หรือ Retinol อย่างน้อย 3–5 วันล่วงหน้า
หลีกเลี่ยงการออกแดดจัด และงดกิจกรรมกลางแจ้งที่ทำให้ผิวต้องเผชิญแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 3 วัน
ผู้ที่มีปัญหาผิวติดเชื้อรุนแรง เช่น เริม หรือสิวอักเสบรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำเลเซอร์
ล้างหน้าให้สะอาด: เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับเลเซอร์
แปะยาชา: ทายาชาบริเวณใบหน้า ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บในระหว่างทำ
ประเมินระดับความเจ็บ: หากกังวลเรื่องความเจ็บ แพทย์อาจพิจารณาใช้วิธีลดปวดเพิ่มเติมที่เหมาะสมเฉพาะราย
เช็ดยาชาและทำความสะอาดผิวอีกครั้ง: ก่อนเริ่มทำเลเซอร์ จะมีการเช็ดยาชาและใช้ยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดใบหน้าอีกครั้ง
เริ่มเลเซอร์: ยิงเลเซอร์ทั่วทั้งใบหน้า โดยแพทย์จะเลือกใช้โหมดต่าง ๆ (Coring, Ultra และ Clear) ตามสภาพผิวและปัญหาเฉพาะบุคคล
ใช้เวลาประมาณ: 30 นาที (โดยประมาณ ขึ้นอยู่กับผิวแต่ละคน)
หลังทำทันที: แพทย์จะช่วยลดอาการแสบร้อนโดยการทาชาลดการระคายเคือง และประคบเย็นประมาณ 30 นาที
ช่วง 24 ชั่วโมงแรก:
อาจมีเลือดซึมเล็กน้อยจากบริเวณที่เลเซอร์ตัดผิว แต่โดยทั่วไปจะไม่มีอาการปวด
ให้ใช้สำลีก้านปลอดเชื้อซับเลือดเบา ๆ หากมีซึมออกในช่วง 3–12 ชั่วโมงแรก
หลีกเลี่ยงการล้างหน้า ใช้น้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดแทน
ทายาฆ่าเชื้อและยาที่ได้รับจากคลินิกทุก 4–6 ชั่วโมง รักษาความชุ่มชื้นของผิวอยู่เสมอ
หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยเด็ดขาด
วันที่ 2–3 (24–72 ชั่วโมงหลังทำ):
เริ่มล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าได้ แต่ยังงดใช้โฟมหรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีฟอง
ทายาเหมือนเดิมเป็นระยะ ๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและฟื้นฟูได้ดี
ยังไม่ควรทาครีมกันแดด
วันที่ 3–7:
ล้างหน้าได้ตามปกติ ด้วยโฟมหรือสบู่อ่อนโยน
ผิวอาจเริ่มลอกเป็นขุยเล็กน้อย อย่าขัดหรือแกะผิว
อาจมีการอักเสบของรูขุมขนเล็กน้อยในบางราย แต่สามารถดูแลได้ด้วยยาจากคลินิก
ผิวเริ่มดีขึ้น แดงน้อยลง ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 7–14:
ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น เห็นความแตกต่างชัดเจน
สามารถกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตามปกติ รวมถึงครีมกันแดดได้แล้ว
ใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ แต่ควรใส่ใจเรื่องการปกป้องผิวจากแสงแดดต่อไป
การทำ UltraClear อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่แพทย์จะใช้ยาชาแบบทา และอาจใช้เทคนิคลดเจ็บร่วมด้วย ทำให้ระดับความรู้สึกเจ็บขณะทำอยู่ที่ประมาณ 0–2 จาก 10 ถือว่าทนได้สบาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา
โดยทั่วไป ทำเพียงครั้งเดียวก็เห็นผลชัดเจนแล้ว แต่ในบางกรณี เช่น ผิวมีปัญหามาก หรือผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้น อาจทำซ้ำ 2–3 ครั้ง โดยเว้นช่วงห่าง 3–6 เดือน แพทย์จะเป็นผู้แนะนำตามความเหมาะสม
หลังทำทันทีจะเริ่มเห็นผลประมาณ 20% จากการที่ผิวหดตัว และผลลัพธ์จะชัดที่สุดในช่วง 3–6 เดือน เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่วนผลในด้านผิวเรียบเนียนจะเริ่มสังเกตได้ใน 7–14 วันหลังทำ
ผลของการทำ UltraClear ถือว่าอยู่ได้ยาวนาน เพราะเป็นการเอาผิวเก่าออกถาวร โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้อย่างน้อย 1–2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุ การใช้ชีวิต และการดูแลผิวในระยะยาว
แนะนำให้เว้นการแต่งหน้าอย่างน้อย 72 ชั่วโมงแรก เพื่อให้ผิวฟื้นตัวอย่างเต็มที่ หากจำเป็นสามารถแต่งได้หลังจากนั้น แต่หากรอได้ ควรเว้นจนถึงวันที่ 7 จะดีที่สุด
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รูขุมขนกว้าง หรือผิวไม่กระชับ และต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนโดยไม่ผ่าตัด
ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ผู้มีแผลเปิดหรือการติดเชื้อที่ผิว เช่น เริม สิวอักเสบ
ผู้มีผื่นหรือโรคผิวหนังอักเสบ
ผู้ที่มีโรคที่กระทบต่อการหายของแผล เช่น SLE, Scleroderma
ผู้ที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์หรือสารกระตุ้นคอลลาเจน ควรเว้น 4–6 สัปดาห์ก่อนทำ
ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองผิว เช่น กรดวิตามิน A หรือ AHA ก่อนทำ 3–5 วัน และแจ้งแพทย์หากมีประวัติแพ้ยา หรือเคยทำหัตถการอื่นมาก่อน
เพื่อปรึกษาข้อมูลหรือวางแผนการทำหัตถการเพิ่มเติม
Line@: @filler
มีที่จอดรถทุกสาขา
ultraclear รีวิว ultraclear ultraclear
#sofwave #sofwavemed #sofwavemedical #sofwavejourney #sofwaveexperience